การติดตั้งและการใช้งานตัวกรองลมในระบบนิวเมติกส์หรือระบบลมอัด เพื่อการดูแลรักษาและปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของระบบนั้น เป็นเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญ เพราะถ้าติดตั้งได้ถูกตำแหน่ง ถูกทิศถูกทาง มันก็จะทำให้เราจัดการงานได้ดีขึ้นนั่นเอง โดยจะดีขึ้นอย่างไรนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ
ติดตั้งดี มีชัยไปกว่าครึ่งนะ
1. ควรติดตั้งใกล้กับอุปกรณ์นิวเมติกส์ที่สุดเท่าที่จะทำได้: การติดตั้งชุดกรองลมให้ใกล้กับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบ เช่น กระบอกลม มอเตอร์ลม หัวขับลม หรือเครื่องจักรงานลม เราควรให้เป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ เพื่อให้ตัวกรองลมทำหน้าที่ป้องกันความชื้น และสิ่งสกปรกจากอุปกรณ์นิวเมติกส์เหล่านั้นได้อย่างเต็มที่ เมื่ออุปกรณ์อยู่ใกล้กันเวลาเราจะดูแลรักษาอุปกรณ์ในระบบก็จะทำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
2. ระดับความสูงและพื้นที่ทำงาน: การติดตั้งตัวกรองลมให้อยู่ในระดับความสูงที่เหมาะสม และให้พื้นที่ทำงานให้มีระยะเพียงพอที่เราสามารถทำการบำรุงรักษาได้อย่างสะดวก เช่น การถอดไส้กรองเพื่อทำความสะอาด หรือเปลี่ยนไส้กรอง เป็นต้น
3. การมอง Pressure Gauge อย่างชัดเจน: มุมในการมอง Pressure Gauge หรืออุปกรณ์วัดความดันที่เชื่อมต่อกับระบบลม ควรที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบและปรับความดันได้ตามความเหมาะสม
การดำเนินการตามข้อแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ระบบลมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ รวมถึงสามารถป้องกันปัญหาเรื่องความชื้นและแรงดันอากาศตกคร่อมที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ติดตั้งเสร็จ อย่าลืมตัวจ่ายน้ำมันหล่อลื่น Lubricator เด็ดขาด
ตัวจ่ายน้ำมันมักจะถูกพบเห็นใน ชุดกรองลม 3 ตอน โดยการติดตั้งตัวจ่ายน้ำมันหล่อลื่น (Lubricator) เพื่อให้มีการหล่อลื่นในระบบท่ออากาศหรือแก๊ส มีจุดประสงค์ที่สำคัญก็คือ เพื่อลดการสึกกร่อนและเสียงดัง อย่างไรก็ตามเมื่อติดตั้งชุดจ่ายน้ำมันในระบบท่อวิ่งด้านบน ที่มีการเอียงขึ้นที่อุปกรณ์หล่อลื่นอาจทำให้การทำงานของชุดจ่ายน้ำมันไม่เป็นไปตามความต้องการ มีหลายสาเหตุที่ทำให้เราไม่ควรเดินท่อวิ่งขึ้นด้านบน 90 องศา หรือตั้งฉากกับพื้น มีดังนี้
1. การกระจายแรงดัน: การติดตั้งตัวจ่ายน้ำมันในมุมที่เอียงขึ้นตั้งฉากกับพื้น อาจทำให้การกระจายแรงดันของหล่อลื่นไม่เท่ากันในทุกช่วงของท่อ ซึ่งอาจทำให้การหล่อลื่นไม่เป็นไปตามความต้องการและส่งผลต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อลื่นเอง
2. การระบายอากาศ: การที่ตัวจ่ายน้ำมันถูกติดตั้งขึ้นด้านบน อาจทำให้มีปัญหาในการระบายอากาศออกจากระบบท่อ ทำให้อาจเกิดการสะสมของอากาศและน้ำในชุดจ่ายน้ำมันซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ลดประสิทธิภาพของการหล่อลื่น
3. การระเหยของหล่อลื่น: การติดตั้งตัวจ่ายน้ำมันที่เอียงขึ้นด้านบน อาจทำให้หล่อลื่นระเหยออกมาจากตัวจ่ายโดยไม่ได้รับการกระจายที่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาในการทำงานของระบบที่ใช้หล่อลื่น
ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่า การติดตั้งตัวจ่ายน้ำมันในระบบท่อวิ่งด้านบนไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อให้การหล่อลื่นสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลในการลดการสึกกร่อนและเสียงดังในระบบท่ออากาศหรือแก๊สได้อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นการตั้งตั้งที่ดี เราควรทำตามคำแนะนำจากคู่มือที่ได้จากผู้ผลิตของอุปกรณ์น่ะค่ะ
น้ำมันหล่อลื่น เลือกใช้แบบไหนดี
น้ำมันหล่อลื่นในงานนิวเมติกส์ หรือ Punematic Lubricant Oil เป็นสารที่มีความสำคัญในการบำรุงรักษา และเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ในงานนิวเมติกส์ค่ะ ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นที่นิยมใช้งานคือเบอร์/เกรด VG32 ซึ่งจะมีประโยชน์หลายอย่างด้วยกันคือ
1. ลดการสั่นสะเทือนทางเสียง: น้ำมันหล่อลื่นช่วยลดการสั่นสะเทือนของเครื่องจักรและลดเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นในระบบการทำงาน ทำให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างนุ่มนวลและเงียบสงบมากขึ้น
2. ลดการเสื่อมระยะเวลา: การใช้น้ำมันหล่อลื่นช่วยลดแรงสั่นสะเทือนระหว่างพื้นผิวที่สัมผัสกัน ซึ่งช่วยลดการสึกหรอของอะไหล่และช่วยลดการเสื่อมสึกของส่วนประกอบในระยะยาว
3. ลดความร้อน: น้ำมันหล่อลื่นสามารถช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบการทำงาน โดยการช่วยในการส่งน้ำความร้อนออกจากระบบและช่วยให้อุณหภูมิปกติของเครื่องจักรคงที่
4. ป้องกันการกันสนิม: น้ำมันหล่อลื่นสามารถช่วยป้องกันการกันสนิมบริเวณส่วนต่างๆ ของเครื่องจักร ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างความทนทานและอายุการใช้งานของเครื่องจักรให้ยาวนานขึ้น
5. ลดการเสื่อมสึกของซีลและโอริง: น้ำมันหล่อลื่นช่วยลดการเสื่อมสึกของซีลและโอริงในระบบการทำงาน ทำให้ซีลและโอริงสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน